พวกเราชาว Freediver ไม่ว่าจะพึ่งเป็นผู้เริ่มต้นหรือจนถึงนักแข่งระดับโลก ก็มีโอกาศเจอกับอาการไซนัสได้เช่นกัน อาการของไซนัสที่เกิดขึ้น คือ มีอาการ ปวดตามโพรงไซนัสช่วงโหนกแก้ม หรือ หน้าผาก ยิ่งถ้าบางคนมีอาการภูมิแพ้อยู่แล้ว ยิ่งมีโอกาศเจอกับอาการไซนัสอักเสบได้ง่ายมาก
ไซนัส คือโพรงอากาศ ที่อยู่รอบๆ จมูกและอยู่ในกะโหลกส่วนใบหน้า ตำแหน่งของไซนัส มีอยู่ 4 โพรง คือ ช่วงโหนกแก้ม หัวตา หน้าผาก และ ฐานสมอง
ประโยชน์ของเจ้าไซนัสคือ
- ช่วยปรับความดันในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น การหายใจเข้าออก การจาม การเปลี่ยนแปลงความดันอากาศรอบข้าง
- ปรับอุณภูมิอากาศที่หายใจเข้าให้อุ่นและชื้นขึ้น
- ทำให้เสียงที่เปล่งมีความกังวาล
- รักษาสมดุลของกะโหลกศรีษระ
- ช่วยลดความรุนแรงของการกระแทก ไม่ให้ไปกระทบกับอวัยะวะที่สำคัญ
เมื่อไซนัสมีลักษณะเป็นโพรงอากาศ ก็ต้องมีการหดตัวของอากาศ เมื่อเราดำน้ำลงไป และเมื่ออากาศหดตัวเราจึงต้องทำการ Equalize ปกติการเคลียร์ไซนัสมักจะเป็นการเคลียร์อัตโนมัติอยู่แล้ว คือ เมื่อเราเคลียร์หู ลมจะถูกดันไปที่จมูกก่อนเสมอ (ยกเว้นผู้ที่ใช้วิธี Hand free) ระหว่างที่แรงดันไปที่จมูก ลมก็จะถูกดันขึ้นไปที่ไซนัสเพื่อปรับแรงดันในโพรงไซนัสด้วยเช่นกัน ดังนั้นเมื่อมีอาการเป็นหวัดและมีน้ำมูก หรือในผู้ที่เป็นภูมิแพ้ง่ายอยู่แล้ว จะส่งผลโดยตรงกับไซนัส เมื่อมีอาการเกิดขึ้น ส่วนมากหลังจากดำน้ำไปสัก 15-20 นาที ร่างกายจะเริ่มผลิตเมือกมากขึ้นกว่าปกติ เพื่อต่อต้านเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย ในบางคนมีอาการบวมร่วมด้วย เมื่อน้ำมูกเริ่มไหลมาคั่งอยู่ระหว่างโพรงจมูกและไซนัส จะทำให้อากาศที่จะดันขึ้นไปยังไซนัสน้อยลง หรือบางคนไม่สามารถดันอากาศผ่านโพรงไซนัสไปได้เลย (sinus block) บางครั้งขณะที่กำลังเคลียร์หูจะได้ยินเหมือนมีเสียงน้ำอยู่ด้านในโพรงไซนัส บางคนมีอาการบวมด้านในโพรงไซนัสแต่ไม่มีน้ำมูก อาการนี้ส่วนมากจะเจอกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้รุนแรง หรือเป็นไซนัสอักเสบเรื้อรังอยู่แล้ว จะมีอาการบวมมากในโพรงไซนัส ทำให้อากาศไม่สามารถดันไปตามโพรงไซนัสได้สะดวก (ผู้ที่ถอดmaskในทะเลแล้วเกิดน้ำเข้าจมูก เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไซนัสอักเสบเฉียบพลันได้)
เมื่อเกิดอาการจะรู้สึกแน่นตามใบหน้าช่วงโหนกแก้ม หรือ หน้าผากในขณะดำน้ำ บางคนรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาช่วงหัวตา หรือปวดจี๊ดช่วงหัวคิ้วด้านใน หากมีอาการแบบนี้เสี่ยงมากที่จะทำให้เส้นเลือดฝอยในโพรงไซนัสบาดเจ็บได้ อาจทำให้มีเลือดออกทางจมูกและไหลลงมาในคอได้ เมื่อเริ่มรู้สึกมีอาการตึงแน่นตามไซนัส ให้ลองสั่งน้ำมูกออกให้หมด ดื่มน้ำเยอะๆ ในช่วงขณะฝึก ฝึกซ้อมโดยการเอาเท้าลงก่อน อย่าฝืนลงถ้ารู้สึกปวด เพราะอาจทำให้บาดเจ็บได้ ถ้าฝึกโดยการเอาเท้าลงแล้วยังมีอาการปวด แนะนำให้หยุดดำในวันนั้นไปก่อน หากมีเลือดออกควรสั่งเลือดนั้นออกมาให้หมด อย่าสั่งแรงเพราะอาจทำให้บาดเจ็บเพิ่มได้ ถ้าเลือดออกไม่มากและหยุดไหล ยังพอที่จะฝึกต่อได้แต่ควรใช้ความระมัดระวัง ไม่ควรลงเร็ว และ ห้ามน้ำเข้าจมูกเด็ดขาดเพราะอาจทำให้ติดเชื้อรุนแรงได้ ถ้าเลือดออกมากไหลไม่หยุด ควรหยุดดำทันที เพราะฉะนั้น การฝึกเคลียร์ไซนัสไปด้วยก็เป็นอีกทางเลือกนึงในเมื่อหนีไม่พ้นก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันซะเลย
การเคลียร์ไซนัสอาจจะทำได้ในผู้ที่ไม่ได้มีอาการรุนแรงมาก การเคลียร์ไซนัสก็คือการเคลียร์หูค้างให้ยาวขึ้นนั่นเอง หลังจากที่ลมไปที่หูจนเต็ม เราก็ดันค้างไปอีกเพื่อให้แรงลมดันต่อไปที่โพรงไซนัส จะได้ยินว่ามีเสียง อี๊ดดดดดด ยาวๆ ช่วงโหนกแก้มหรือหน้าผาก ข้อสำคัญต้องไม่กระแทกลม ไม่เค้น ค่อยๆ ไล่ลมไปเรื่อย เพราะฉะนั้นต้องระวังความเร็วในการลงและขึ้น ไม่ให้เร็วจนเกินไป และแน่นอนเมื่อเป็นไซนัสก็ต้องมากับความเหนื่อยที่มากขึ้นจากการเคลียร์
เมื่อรู้ว่าอากาศเริ่มเปลี่ยน หรือเป็นหวัด ให้รีบรักษา หากเริ่มมีอาการไซนัสควรรีบรักษาให้ตรงจุดเพราะเมื่อเรื้อรังแล้วจะใช้เวลารักษานานมาก
การรักษาไซนัสด้วยตัวเองเมื่อมีอาการอักเสบหรือบวม
– ใช้การล้างจมูก
– สูดไอน้ำร้อน
– ฝึก pranayama
– ทานยาแก้แพ้ ลดบวม
หากมีอาการน้ำมูกหรือเสมหะเปลี่ยนสีแนะนำให้รีบหาหมอเฉพาะทางครับ เพราะนั่นคืออาการติดเชื้อ ช่วงนี้อากาศเริ่มเปลี่ยนก็ระวังกันด้วยครับ ใครที่เป็นไซนัสบ่อยอยู่แล้วก็สู้ๆครับรักษาให้หายและก็อยู่กับมันให้ได้ :)
บทความโดย : ครูปูเป้ APNEA Thailand
Share This Post!
About the author : admin
ฟรีไดฟ์ได้มีการแบ่งประเภทออกเป็นทั้งหมด 8 ประเภท ตามลักษณะการกลั้นหายใจ
Static Apnea – กลั้นหายใจอยู่กับที่ หนึ่งลมหายใจกลั้นให้ได้นานที่สุด
Dynamic Apnea with fins – ดำนำในแนวระนาบ หนึ่งลมหายใจไปให้ได้ไกลที่สุด โดยใช้ฟิน
Dynamic Apnea nofin – ดำนำในแนวระนาบ หนึ่งลมหายใจไปให้ได้ไกลที่สุด โดยไม่ใช้ฟิน
Free Immersion – การดึงเชือกลงไปในความลึกและดึงเชือกกลับขึ้นสู่ผิวน้ำ
Constant Weight with fins – ดำน้ำดิ่งลงไปและว่ายกลับขึ้นสู่ผิวน้ำ สามารถจับเชือกได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นตอนกลับตัว โดยใช้ฟิน
Constant Weight nofin – ดำน้ำดิ่งลงไปและว่ายกลับขึ้นสู่ผิวน้ำ สามารถจับเชือกได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นตอนกลับตัว โดยไม่ใช่ฟิน
Varible Weight – ใช้อุปกรณ์น้ำหนักพาลงไปในความลึก กลับขึ้นมาโดยการว่ายหรือดึงเชือก
No Limits – ใช้อุปกรณ์น้ำหนักลงไปในความลึก และกลับขึ้นมาด้วยอุปกรณ์
ในคอร์สเรียนนักเรียนทุกคนจะได้เรียนในทุกประเภท ในแต่ระดับของฟรีไดฟ์ที่เข้าร่วมหลักสูตร
แน่นอนกีฬาผาดโผน มีความอันตรายแฝงอยู่แล้ว ซึ่งฟรีไดฟ์ก็เช่นกัน มีความอันตรายมากมายในระหว่างที่กิจกรรมเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหมดสติระหว่างการกลั้นหายใจใต้น้ำหรือผิวน้ำก็ตาม เกิดอาการชักบนผิวน้ำ ได้รับการบาดเจ็บจากแรงดัน หู จมูก ปอด ซึ่งแต่ละอย่างอันตรายน้อยจนถึงระดับรุนแรง อาจไม่สามารถดำน้ำต่อได้หรือเสียชีวิต แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปถ้าคุณได้เรียนฟรีไดฟ์อย่างถูกต้องและถูกวิธี เราสามารถหลีกเลี่ยงความอันตรางท่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งในคอร์สเรียนของเราจะมีการสอนให้เข้าใจถึงความเสี่ยงต่างๆ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุไม่ให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน การเรียนฟรีไดฟ์อย่างถูกวิธีและทำให้เข้าใจฟรีไดฟ์ได้อย่างลึกซึ้ง คุณก็จะสามารถดำน้ำได้ด้วยความปลอดภัย
ทางโรงเรียนมีครูฝึกที่ได้รับรองจากองค์กรฟรีไดฟ์ AIDA ในระดับสากลที่มีมาตรฐานสูงสุด และ Molchanovs นักเรียนทุกคนที่ผ่านหลักสูตรเรียบร้อยแล้วจะได้รับไปรับรองจากหลักสูตรฟรีไดฟ์ที่คุณได้รับเรียน เว้นแต่คุณจะไม่ผ่านเกณฑ์และครบเวลาที่หลักสูตรกำหนด
Wetsuit เป็นอีกอย่างที่ใช้ในการฟรีไดฟ์ เวทสูททำหน้าที่ช่วยคุมอุณหภูมิในร่างกายไม่ให้หนาวเย็นเวลาอยู่ในน้ำที่นาน และยังช่วยป้องกันสัตว์มีพิษในทะเลได้อีกด้วย สำหรับผู้เริ่มต้นใหม่ ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ ในระหว่างเรียนทางโรงเรียนมีเวทสูตรให้เช่าสำหรับคนที่หนาวง่ายเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเรียน แต่ถ้าออกไปดำน้ำเที่ยวเล่นทั่วไปการที่ได้ใส่เวทสูตรหรือชุดแขนยาวขายาว ก็สามารถป้องกันสัตว์มีพิษในทะเลได้เช่นกัน ในระดับต่อไปจริงจังกับกิจกรรมฟรีไดฟ์มีการออกซ้อมบ่อยๆ ก็ควรมีเวทสูทติดตัวไว้อย่างน้อยหนึ่งตัวก็ดี
เริ่มต้นในคอร์สเรียนทางโรงเรียนได้จัดอุปกรณ์ทั้งหมดในการเรียนฟรีไดฟ์ไว้หมดแล้ว นักเรียนสามารถใช้และได้ลองอุปกรณ์ต่างๆได้โดยที่ยังไม่ต้องซื้อมาก่อนเริ่มเรียน ถ้ารู้สึกชอบและอย่างจริงจังกับกิจกรรมนี้ก็สามารถซื้ออุปกรณ์เป็นของตัวเองได้เช่นการ ทางโรงเรียนก็มีร้านพันธมิตรซึ่งมีส่วนลดในการซื้อสินค้าฟรีไดฟ์ให้กับนักเรียนทุกคน และทางครูกับสตาฟภายในโรงเรียนพร้อมให้คำปรึกษากับการเลือกซื้ออุปกรณ์ให้ถูกวัตถุประสงค์ในการใช้งานกับราคาที่คุ้มค่าที่จะต้องจ่าย เพื่อใหม่ได้สินค้าในราคาที่ไม่แพงเกินไป
การเรียนฟรีไดฟ์แน่นอนสามารถเรียนคนเดียวได้ ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนมาเรียนด้วยก็ได้ เพราะในคราสเรียนคุณจะได้พบเจอเพื่อนๆใหม่ที่สนใจกิจกรรมแบบเดียวกับคุณ ทำให้คุณได้มิตรภาพใหม่กลับไปและออกไปดำน้ำด้วยกันได้ การดำน้ำแบบฟรีไดฟ์มีกฏเหล็กสำหรับการดำน้ำอยู่คือ “Never Dive Alone” ห้ามดำน้ำคนเดียวเด็ดขาด ต้องมีคู่ดำน้ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยทั้งสองคน การออกไปดำน้ำเที่ยวเล่นทั่วไปก็ควรมีเพื่อนออกไปดำน้ำด้วย ห้ามไปคนเดียวเด็ดขาดไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุและไม่สามารถมีใครช่วยเหลือเราได้
การกลั้นหายใจได้นาน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่นการหายใจให้ถูกวิธีในแบบของฟรีไดฟ์ ทักษาะการผ่อนคลาย การเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนที่เริ่มกลั้นหายใจ และการฝึกซ้อมอย่างถูกวิธีเพื่อพัฒนาศักยภาพร่างกายให้ดีขึ้นไป ทั้งหมดนี้มีอยู่ในคอร์สเรียนของเราซึ่งคนที่ได้เข้าคอร์สเรียนจะได้รับการอบรมในเนื้อหาส่วนนี้
การเรียรฟรีไดฟ์ ไม่ยากและไม่ง่ายเกินไปที่ทุกคนจะสามารถเรียนรู้และปฏิบัติได้ ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับทักษาะการเรียนรู้ของแต่ละบุคคลว่าจะไปพัฒนาไปได้เร็วและดีแค่ไหน ซึ่งแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ในคอร์สเรียนได้กำหนดวันเรียนไว้อย่างน้อย 1 วันที่ทำให้คุณเรียนรู้ทักษะของฟรีไดฟ์เบื้อต้นทั้งหมด แต่ถ้ายังไม่สามารถทำได้ดีหรือยังไม่ได้ ก็สามารถเรียนซ้ำได้กับทางโรงเรียนของเรา จะไม่ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคอร์สเรียนใหม่ที่เกิดขึ้น ทางโรงเรียนมีนโยบาย ให้คนที่เรียนกับทางเราได้รับข้อมูลและการปฏิบัติอย่างครบถ้วน เพราะอย่างนั้นไม่ต้องกังวลไป ทำไม่ได้ก็กลับมาเรียนซ้ำใหม่ได้จนกว่าคุณจะสำเร็จผ่านตามเกณฑ์ของหลักสูตรไปได้
ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงหรือมีโรคประจำตัวบางอย่างก็จะสามารถเรียนได้เช่นกัน โรคประจำตัวที่ไม่สามารถเรียนได้ คือ โรคความดั่นโลหิตต่ำ โรคหัวใจ โรคลมชัก โรคเกี่ยวกับปอด โรคภาวะติดเชื้อรุนแรง โรคประสาทขั้นรุนเรง เป็นต้น ส่วนบุคคลที่ร่างกายไม่แข็งแรงมากก็สามารถเรียนได้ฟรีไดฟ์จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นได้ แต่การเล่นกีฬาก็ควรหมั่นทำให้ร่างกายแข็งแรงและปลอดโรคจะดีที่สุด
บุคคลที่ว่ายน้ำไปเป็นก็สามารถเริ่มเรียนฟรีไดฟ์ได้เหมือนแต่ ควรเริ่มเรียนในระดับ Basic Freedive ก่อน เพื่อเรียนรู้ทักษะการว่ายน้ำแล้วการเอาตัวรอดบนบิ้วน้ำเบื่องต้น ก็จะสามารถดำน้ำฟรีไดฟ์ได้โดยที่ว่าน้ำไม่เป็น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ความปลอดภัยจะขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียนเองการทำกิจกรรมทางน้ำทักษะการว่ายน้ำพื้นฐานควรจะมีกันในทุกคนเพื่อรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทางโรงเรียนจึงแนะนำว่าหากเรียนฟรีไดฟ์ไปแล้วเกิดความหลงใหลชื่นชอบในการดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ ควรหาที่เรียนว่ายน้ำเพิ่มเติมหรือฝึกซ้อมทักษะการว่ายให้ดีขึ้นว่าเดิม เพื่อความปลอดภัยโดยสมบูรณ์
ภายใต้ข้อกำหนดหลักสูตรของโรงเรียน ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป หรือ 16-17 ปีโดยที่มีผู้ปกครองยินยอม สามรถเริ่มเรียนฟรีไดฟ์ในหลักสูตของเราได้ อายุมากที่สุดไม่มีกำหนด ถ้าคุณคิดว่าคุณอายุเยอะแล้วแข็งแรงอยากเปิดประสบกาณ์ใหม่ให้ชีวิตคุณก็สามารถเข้าร่วมคอร์สฟรีไดฟ์ได้
การเริ่มเรียนฟรีไดฟ์ในขั้นแรก จะสามารถเริ่มเรียนได้ 2 คอร์ส Basic Freedive หรือ Freediver ในระดับแต่ขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการทำกิจกรรมหรือสภาพของร่างกาย ความแต่กต่างดูในลายละเอียดคอร์สเรียนได้ หลักผ่านหลักสูตรแล้วก็เรียนในระดับต่อไปได้ Advande Freediver และ Master Freediver ในระดับถัดไปสำหรับคนที่อยากทำเป็นอาชีพหรือเพิ่มทักษะความรู้มากขึ้น เรียนระบ Freedive Instructor ได้
การดำดิ่งลงไปในน้ำลึกด้วยลมหายใจเดียวและไม่มีเครื่องช่วยหายใจ ฟรีไดฟ์เป็นกีฬาทางน้ำประเภทหนึ่งจัดอยู่ในกีฬาผาดโผน นั่นหมายความว่าการเล่นกิจกรรมชนิดนี้มีความเสี่ยงอาจที่เกิดอันตรายกับร่างกายและชีวิตของเราได้ ฟรีไดฟ์จะใช้การควบคุมร่างกายและจิตใจในการดำดิ่งสู่ทะเลและกลับขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ฟรีไดฟ์ยังมีการแข่งขันเพื่อทำสถิตในการดำน้ำ